19.3.53

รัฐมนตรี อาร์มาเกดดอน อลงกรณ์ พลบุตร “ผมไม่ได้อ่อนหัด”


รัฐมนตรี อาร์มาเกดดอน อลงกรณ์ พลบุตร “ผมไม่ได้อ่อนหัด”
เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง






รัฐมนตรี อาร์มาเกดดอน

อลงกรณ์ พลบุตร “ผมไม่ได้อ่อนหัด”


หนึ่งในไม้เบื่อไม้เมาผู้มีบทบาทสำคัญในการเปิดโปงวาระซ่อนเร้นโครงการหลากหลายของรัฐบาล ในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลื่องลือที่สุดคงเป็นเรื่องการทุจริตในสนามบินสุวรรณภูมิ กระทั่งได้รับการคัดเลือก จากสื่อมวลชนประจำรัฐสภาให้เป็น “ดาวเด่นแห่งปีของรัฐสภาประจำปี 2546” พร้อมรับฉายา “มือปราบ รัฐสภา” รั้งท้ายชื่อ อลงกรณ์ พลบุตร นับตั้งแต่นั้นมา


ทว่าการทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบในฝั่งของฝ่ายค้าน ทำให้เขาต้องเผชิญกับการถูกฟ้องร้อง และ ถูกแจ้งจับกว่า 20 คดี ข้อหาหมิ่นประมาทจากคดีที่เข้าไปตรวจสอบการทุจริต รวมทั้งโดนฟ้องทางแพ่ง เกือบหมื่นล้านบาท


ปัจจุบัน สส.หนุ่มเมืองเพชร สายเลือดประชาธิปัตย์ ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ดูแลรับผิดชอบ 3 กรม คือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมเจรจา การค้าระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันยังกำกับดูแลอีก 2 องค์การมหาชน คือ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับ และศูนย์ศิลปาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นประธานกำกับนโยบายจำนำข้าวโพดประจำปี 2551-2552 ส่งเสริมด้านการส่งออกในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา


กระทั่งเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวง พาณิชย์ เข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ย่านพัฒนพงษ์ จนเกิดการปะทะกับพ่อค้าแม่ค้า กลายเป็นประเด็นซึ่ง ทำให้รัฐมนตรีถูกกระแสวิจารณ์ “อ่อนหัด” ผู้ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นถึง “มือปราบ” จะคิดอ่านอย่างไร WhO? ตามไป แถลงไขถึงในกระทรวงพาณิชย์ เผยหลายประเด็นการเมืองคาใจ พร้อมย้อนอดีตรักหวานชื่นชวนอิจฉา กว่าจะ มาเป็นครอบครัวอบอุ่นเช่นปัจจุบัน


ตะลุยปราบสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์


หนุ่มใหญ่วัยย่างเข้าเลข 5 นำหน้ามาเพียง 2 ปี ก่อนหน้านี้เคยโลดแล่นอยู่ในแวดวงข่าวในฐานะนัก หนังสือพิมพ์และผู้ผลิตข่าวโทรทัศน์ กระทั่งมาถึงจุดพลิกผันหลังจากการทำรัฐประหารคณะ รสช. ในปี 2534 จึงตัดสินใจวางปากกาพาตัวเองเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองเต็มตัว


อดีตเหยี่ยวข่าวยิ้มรอรับคำถาม พร้อมเปิดเผยถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปราม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ย่านพัฒนพงษ์ “เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่การสร้างภาพของรัฐบาล พอดีช่วงนั้นเตรียมการจัดประชุมรัฐมนตรี สาธารณสุขอาเซียน ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับย่านพัฒนพงษ์


“ขอยืนยันว่าต้องการสร้างสังคมและกฎหมายให้เกิดความถูกต้อง เพราะสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้ ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 2-3 แสนล้านบาทต่อปี อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรม เครื่องหนังต้องปิดตัวเอง คนต้องตกงาน ไม่เคยมีใครคิดว่าคนเหล่านี้ได้กระทำผิดกฎหมาย และทำลาย อุตสาหกรรม ทำลายเศรษฐกิจ


“ในส่วนของการดำเนินการในจุดอื่น ไม่มีพื้นที่ไหนละเว้น ไม่ว่า มาบุญครอง คลองถม บ้านหม้อ สะพานเหล็ก แต่ต้องยอมรับว่าธุรกิจใต้ดินเหล่านี้มีส่วย ดังนั้นการดำเนินการต้องทำให้ละมุนละม่อมที่สุด แต่ เนื่องจากมีนักเลงโต มาเฟีย คอยคุม เหมือนบ่อนเถื่อนเปิดกลางกรุงได้ยังไง จากนี้ไปจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไป จับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตามแหล่งที่กล่าวมา ผมจะดูรายงานทั้งหมดว่าเหตุการณ์การจับกุมเป็นอย่างไร เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอให้เชื่อมั่นว่าการทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ได้อ่อนหัดตามเสียงวิจารณ์ แน่นอน” รมช.พาณิชย์ ชี้แจงเสียงเข้ม