19.3.53

โฟนลิ้งสื่อรักข้ามพรรค

โฟนลิ้งสื่อรักข้ามพรรค

ย้อนกลับไปถึง “คมคาย พลบุตร” ก่อน ตกลงปลงใจ แต่งงานกับ “อลงกรณ์” ในยุคนั้น เรียกได้ว่า เป็น ส.ส.ที่เนื้อหอมที่สุด เพราะเป็น ส.ส.หญิงที่มีอายุน้อยที่สุด ทำให้บรรดา ส.ส.หนุ่ม และไม่หนุ่มตามจีบกันหลายคน แต่ “อลงกรณ์” กลับพิชิตใจเธอได้ “อลงกรณ์” เล่าถึงกลยุทธ์การพิชิตใจ “คมคาย” ให้ฟัง “พ่อ แม่ของเรา รู้จักกันมาก่อน แต่ผม กับ“แอ๊ว” ไม่รู้จักกัน พ่อก็บอกว่า “ลูกสาวอาหนิด ได้เป็น ส.ส.นะ” ต่อมาได้มาอ่านข่าวหน้า 1 ไทยรัฐ มีข่าว ส.ส.จันทบุรีรำแก้บน จึงรู้ว่า เป็น “คมคาย เฟื่องประยูร” ยังคิดว่า ติ๊งต๊องหรือเปล่า เป็นถึงระดับ ส.ส. แต่มารำแก้บน พอมาเจอ ก็เข้าไปแซว แล้วแนะนำตัว

“อลงกรณ์” เล่าต่อว่า ตอนนั้น ผมอายุ 38 ปี อายุมากแล้ว แต่การทำงานการเมือง ไม่มีโอกาสเจอใครซักเท่าไหร่ มองไปมองมา ก็เห็น “คมคาย” นี่แหละ จึงตัดสินใจตามจีบ “ตอนจีบ ก็ไม่ได้เปิดตัวมาก เพราะกลัวคนจะรู้ กลัวเสียภาพลักษณ์ ก็จะใช้วิธีเรียกผ่านโฟนลิ้ง เพราะตอนนั้น จะใช้โฟนลิ้ง กัน ส่งข้อความผ่านโฟนลิ้ง ก็ไม่กล้าลงชื่อจริง จะใช้ ตะวันออก กับตะวันตก แทน คิดว่า ที่เขาเลือกผม อาจจะเห็นว่า ผมเป็นคนรับผิดชอบต่องาน และอาจจะเป็นเพราะลูกตื้อ ตื้อผ่านโฟนลิ้งบ่อย

“ชีวิตแต่งงาน ก็ถือว่า สมบูรณ์นะ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันมากนัก แต่ก็เข้าใจกัน ไม่เคยทะเลาะกัน หลังจากมีลูกแล้ว แอ๊วกับผม ตอนนี้ เป็นมากกว่าความเป็นสามีภรรยาไปแล้ว” ส.ส.เพชรบุรี กล่าว

รับรู้ถึงครอบครัว “พลบุตร” กันแล้ว ตามไปดูเส้นทางเดินของ “อลงกรณ์” ดูบ้างว่า เขามีเส้นทางความเป็นมาอย่างไร มีแนวคิดอย่างไร จึงมาเป็น ส.ส.ที่มีคุณภาพ ในทุกวันนี้ พิสมัยการเมืองตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ

อลงกรณ์” เป็นคนเพชรบุรี โดยกำเนิด หลังจบม.ศ.5 จากโรงเรียนอรุณประดิษฐ์ ของจังหวัด ก็เข้าเรียนต่อคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สนใจกิจกรรมตั้งแต่เรียนมัธยม ตอน เรียน ม.ศ.4 ม.ศ.5 ได้เป็นประธานนักเรียน มาเข้าเรียนธรรมศาสตร์ ก็สนใจบทบาททางการเมือง ตอนปี 2 เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 มีเพื่อนที่สนิทมาก คือ “จารุพงศ์ ทองสิน” ถูกทำร้าย จนเสียชีวิต ผิดหวังมากเกลียดเผด็จการมาก

จากคณะนิติศาสตร์ ย้ายไปเรียนรัฐศาสตร์ เพราะไม่อยากออกไปเป็นทนายความช่วยเหลือคนผิด แต่ก็เรียนจบ 4 ปี หลังจากเรียนจบ เข้าป่าไปทำงานเหมืองของครอบครัว 1 ปี จึงเข้ากรุงเทพฯ เพราะพ่อ แม่ และเพื่อนฝูง ต้องการให้นำวิชาที่เรียนไปใช้ประโยชน์

เข้ากรุงเทพฯ “อลงกรณ์” เข้าทำงานหนังสือพิมพ์ที่ เสียงปวงชน ซึ่งตอนนั้น มีกำแหง ภริตานนท์ คุมบังเหียน จากนั้น ไปทำที่บ้านเมือง และแนวหน้า ตามลำดับ

ที่แนวหน้า เป็นคนแรกที่เปิดหน้าเศรษฐกิจภาคภาษาไทย เมื่อปี 2526 ทำหน้าที่หัวหน้าข่าวเศรษฐกิจ และบก.ข่าวในประเทศ เป็นตัวตั้งตัวตีในการต่อสู้เพื่อปลดแอกสื่อ อยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ ต่อสู้เพื่อปลดโซ่ตรวนหนังสือพิมพ์ คือ ปร.42 เรื่องที่ 2 พยายามปลดแอกอาชีพหนังสือพิมพ์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพแรงงานนักหนังสือพิมพ์ เพื่อปกป้องคนหนังสือพิมพ์ และรับเป็นเลขาธิการคนแรก ช่วงอยู่ที่แนวหน้า ก็รับเป็นอาจารย์พิเศษ สอนหลายมหาวิทยาลัย อาทิ ม.ธรรมศาสตร์ม.จุฬาลงกรณ์ ม.กรุงเทพ และม.หอการค้า เป็นต้น

เดินทางไปอยู่ประเทศสหรัฐ 2 ปี ทำงานด้าน อิมพอร์ต เอกซ์พอร์ต ด้านสิ่งทอ กลับมาจัดตั้งบริษัท เทเลเพรส เพื่อผลิตโทรทัศน์ป้อนให้กับช่อง 5 นับเป็นผู้ผลิตข่าวโทรทัศน์รุ่นที่ 2 ต่อจาก บริษัท แปซิฟิค ที่ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล รับผิดชอบอยู่ และตอนนั้น เป็นรองผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ ข่าวสด